
“โครตรวย อสังหาฯ”
“รวยด้วยอสังหา โดยไม่ใช้ตังจั๊กบาท”
“ปั่นเงินด้วยอสังหา”
“เจ้าพ่อคอนโดเงินล้าน”
“จากกรรมกรสู่เศรษฐีคอนโด”
“อสังหา 9 เด้ง จาก 5 บาท สู่ 500 ล้าน “
หลายท่านอาจเคยเห็นหนังสือหรือคอร์สสัมมนา คล้ายๆแบบนี้
ยุคที่ใครๆก็อยากรวย อยากเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ ถ้าท่านไม่ได้มีความรู้ มีประสบการณ์ ใครล่ะจะช่วยท่านได้ นอกจาก ผู้มีประสบการณ์ อันเอกอุ หรือ ที่เขาเรียกตัวเอง หลายแบบ
ไม่ว่าจะเป็น Guru, Coach, Master, Expert, Blogger ฯลฯ แน่นอนล่ะครับ ใครๆก็อยากรวย แล้วรวยจากอสังหาฯเนี่ย
มันดูเท่ห์โครตๆนะ แบบว่าเวลาใครถามว่า พี่ทำธุรกิจอะไรคะ ?
อ๋อ ผมทำอสังหาฯอะครับ (เก๊กเสียงเท่ห์ๆหน่อย) แหม๋ มันดูเจ๋งจริงๆ
ในยุค 4G นี้หลายคนจะรับรู้ข่าวสารได้รวดเร็วขึ้น ทำให้เกิดกระแสสังคมในโลกโซเชียลของผู้ประสบความสำเร็จกับการลงทุนต่างๆ ทำให้หลายๆคน คิดมาลงทุนกันมากขึ้น ไม่ว่าจะหุ้น ทอง อสังหาฯ
เมื่อเกิดผู้สนใจมากขึ้นก็มีผู้ที่เห็นช่องทางในการหารายได้ด้วยการสอน ประสบการณ์ของตัวเอง หรืออาจมีผู้ประกอบการจ้างบุคคลที่มีอิทธิพลทางความคิดเหล่านั้นมาทำการตลาด ให้ ทั้งในรูปของการจัดสัมนา
การลงเรียนเป็นคอร์สต่างๆ หรือ การพาทัวร์ดูอสังหาฯ เพื่อการลงทุน ยุคนี้จึงเกิด กูรู โค้ช อาจารย์ ฯลฯ ขึ้นเยอะมากๆ
สำหรับคนที่ไม่มีประสบการณ์หรือความรู้ในเรื่องใดๆ เมื่อมี คนที่ดูเหมือนมีประสบการณ์มาบอกเราส่วนใหญ่แล้ว เราก็มักจะเชื่อว่าจริงและคล้อยตามความคิดเค้าเกือบหมด
กูรู หลายคน ก็เป็นผู้มีประสบการณ์การลงทุนด้านนี้ อาจถึงขั้นประสบความสำเร็จมากๆ แต่ก็มีกูรูบางคนที่ลงทุนแค่ไม่กี่ที่ หรือ อาจเป็นแค่นักเก็งกำไรใบจอง ที่บังเอิญประสบความสำเร็จกับบางที่แล้วคิดเข้าข้างตัวเองว่าเก่งแล้ว
บางคนบอกพอร์ตมีเป็น 100 ล้าน แต่ มีห้องที่โอนจริงๆรวมกันไม่ถึง 5 ล้าน ที่สำคัญกู้ธนาคารมาด้วย ส่วนที่นับเป็น 100 ล้านคือนับราคารวมของห้องที่ตัวเองถือใบจองหรือผ่อนดาวน์ไว้เข้ามารวมทั้ง ที่ยังไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์
แล้วแบบนี้จริงๆมันควรเรียกว่าพอร์ต 100 ล้านหรือท่าน การนับมูลค่าพอร์ตควรจะนับอสังหาฯที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเองโดยปลอดภาระ ไม่ใช่นับแบบนั้นแล้วเอามาโชว์ชาวบ้านเค้า
อีกอย่างการอ้างดังกล่าวว่าพอร์ตมีคอนโดเยอะแค่ไหน ก็ไม่สามารถพิสูจน์กันได้ หลายคนที่เจอกูรูเหล่านี้บอกตัวเลขเยอะๆ ก็รู้สึกว่าท่านนั้นประสบความสำเร็จและน่าเชื่อถือ พูดอะไรก็สนุกก็ตื่นเต้น เชื่อไปหมด
สิ่งที่น่ากลัวของกูรูเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องการเสียเงินให้ค่าคอร์สหรือ สัมมนา เพราะนั่นแค่ไม่กี่บาท แต่ที่น่ากลัวคือ กูรูเหล่านี้จะหาทางปล่อยขายห้องที่ตัวเองซื้อ หรือ มาร่วมมือกับเจ้าของโครงการทำเป็นจัดสัมนาหรือทัวร์เพื่อการลงทุน
โดยหลังการสัมนา กูรูจะแนะนำให้ไปซื้อกับโครงการเหล่านั้น สังเกตง่ายๆโครงการที่ขายมักจะมีการการันตีค่าเช่า เพื่อดึงดูดให้น่าลงทุน ถ้าผู้เข้าสัมนาซื้อห้องจากโครงการทางกูรูก็จะได้ผลตอบแทนจากโครงการด้วย
“ประโยคหากินทีเด็ดของกูรู”
“รวยด้วยอสังหา โดยไม่ใช้ตังตัวเองจั๊กบาท”
มันมีจริงที่ไหน แค่เดินเข้าไปก็ต้องจองก่อน ไม่มีเงินซักบาท ใครจะให้จอง
ทริคส่วนใหญ่ของกูรูคือจะบอกว่า กู้ได้ 100% ก็เหมือนไม่ได้ใช้เงิน แล้วรีบหาคนเช่ามาผ่อนธนาคารแทนเรา
ท่านครับ ท่านคิดว่าค่าผ่อนกับค่าเช่ามันพอดีกันเหรอ แล้วห้องจะได้ผู้เช่าทันทีเลยเหรอ แล้วจะไม่แต่งห้องเหรอ เอาเงินไหนแต่ง
ถ้าไม่มีคนเช่าทันทีเอาเงินไหนผ่อน อ้าว..... เงินใคร คิดๆๆๆๆๆ เงินเรานี่หว่า แล้วมันไม่ใช้เงินซักบาทยังไงหว่า
บางคนซื้อมาก็กลัวไม่มีคนเช่า พอถามกูรู ว่าจะมีความเสี่ยงมั้ย กูรูจะตอบว่านี่มันย่านในเมืองไม่ต้องห่วงยังไงไงรอไม่นานก็มีคนเช้าแน่นอน อย่ากังวล ไม่เสี่ยงแน่นอน สำหรับคนที่ไม่รู้เรื่องอสังหาฯมากนักก็หลงเชื่อคำพูด แต่จริงๆแล้ว
ในยุค 4G นี้หลายคนจะรับรู้ข่าวสารได้รวดเร็วขึ้น ทำให้เกิดกระแสสังคมในโลกโซเชียลของผู้ประสบความสำเร็จกับการลงทุนต่างๆ ทำให้หลายๆคน คิดมาลงทุนกันมากขึ้น ไม่ว่าจะหุ้น ทอง อสังหาฯ
เมื่อเกิดผู้สนใจมากขึ้นก็มีผู้ที่เห็นช่องทางในการหารายได้ด้วยการสอน ประสบการณ์ของตัวเอง หรืออาจมีผู้ประกอบการจ้างบุคคลที่มีอิทธิพลทางความคิดเหล่านั้นมาทำการตลาด ให้ ทั้งในรูปของการจัดสัมนา
การลงเรียนเป็นคอร์สต่างๆ หรือ การพาทัวร์ดูอสังหาฯ เพื่อการลงทุน ยุคนี้จึงเกิด กูรู โค้ช อาจารย์ ฯลฯ ขึ้นเยอะมากๆ
สำหรับคนที่ไม่มีประสบการณ์หรือความรู้ในเรื่องใดๆ เมื่อมี คนที่ดูเหมือนมีประสบการณ์มาบอกเราส่วนใหญ่แล้ว เราก็มักจะเชื่อว่าจริงและคล้อยตามความคิดเค้าเกือบหมด
กูรู หลายคน ก็เป็นผู้มีประสบการณ์การลงทุนด้านนี้ อาจถึงขั้นประสบความสำเร็จมากๆ แต่ก็มีกูรูบางคนที่ลงทุนแค่ไม่กี่ที่ หรือ อาจเป็นแค่นักเก็งกำไรใบจอง ที่บังเอิญประสบความสำเร็จกับบางที่แล้วคิดเข้าข้างตัวเองว่าเก่งแล้ว
บางคนบอกพอร์ตมีเป็น 100 ล้าน แต่ มีห้องที่โอนจริงๆรวมกันไม่ถึง 5 ล้าน ที่สำคัญกู้ธนาคารมาด้วย ส่วนที่นับเป็น 100 ล้านคือนับราคารวมของห้องที่ตัวเองถือใบจองหรือผ่อนดาวน์ไว้เข้ามารวมทั้ง ที่ยังไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์
แล้วแบบนี้จริงๆมันควรเรียกว่าพอร์ต 100 ล้านหรือท่าน การนับมูลค่าพอร์ตควรจะนับอสังหาฯที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเองโดยปลอดภาระ ไม่ใช่นับแบบนั้นแล้วเอามาโชว์ชาวบ้านเค้า
อีกอย่างการอ้างดังกล่าวว่าพอร์ตมีคอนโดเยอะแค่ไหน ก็ไม่สามารถพิสูจน์กันได้ หลายคนที่เจอกูรูเหล่านี้บอกตัวเลขเยอะๆ ก็รู้สึกว่าท่านนั้นประสบความสำเร็จและน่าเชื่อถือ พูดอะไรก็สนุกก็ตื่นเต้น เชื่อไปหมด
สิ่งที่น่ากลัวของกูรูเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องการเสียเงินให้ค่าคอร์สหรือ สัมมนา เพราะนั่นแค่ไม่กี่บาท แต่ที่น่ากลัวคือ กูรูเหล่านี้จะหาทางปล่อยขายห้องที่ตัวเองซื้อ หรือ มาร่วมมือกับเจ้าของโครงการทำเป็นจัดสัมนาหรือทัวร์เพื่อการลงทุน
โดยหลังการสัมนา กูรูจะแนะนำให้ไปซื้อกับโครงการเหล่านั้น สังเกตง่ายๆโครงการที่ขายมักจะมีการการันตีค่าเช่า เพื่อดึงดูดให้น่าลงทุน ถ้าผู้เข้าสัมนาซื้อห้องจากโครงการทางกูรูก็จะได้ผลตอบแทนจากโครงการด้วย
“ประโยคหากินทีเด็ดของกูรู”
“รวยด้วยอสังหา โดยไม่ใช้ตังตัวเองจั๊กบาท”
มันมีจริงที่ไหน แค่เดินเข้าไปก็ต้องจองก่อน ไม่มีเงินซักบาท ใครจะให้จอง
ทริคส่วนใหญ่ของกูรูคือจะบอกว่า กู้ได้ 100% ก็เหมือนไม่ได้ใช้เงิน แล้วรีบหาคนเช่ามาผ่อนธนาคารแทนเรา
ท่านครับ ท่านคิดว่าค่าผ่อนกับค่าเช่ามันพอดีกันเหรอ แล้วห้องจะได้ผู้เช่าทันทีเลยเหรอ แล้วจะไม่แต่งห้องเหรอ เอาเงินไหนแต่ง
ถ้าไม่มีคนเช่าทันทีเอาเงินไหนผ่อน อ้าว..... เงินใคร คิดๆๆๆๆๆ เงินเรานี่หว่า แล้วมันไม่ใช้เงินซักบาทยังไงหว่า
บางคนซื้อมาก็กลัวไม่มีคนเช่า พอถามกูรู ว่าจะมีความเสี่ยงมั้ย กูรูจะตอบว่านี่มันย่านในเมืองไม่ต้องห่วงยังไงไงรอไม่นานก็มีคนเช้าแน่นอน อย่ากังวล ไม่เสี่ยงแน่นอน สำหรับคนที่ไม่รู้เรื่องอสังหาฯมากนักก็หลงเชื่อคำพูด แต่จริงๆแล้ว
การที่คอนโดไหนจะมีสภาพคล่องของการให้เช่าได้ดีนั้น ไม่ใช่คอนโดที่อยู่ในเมืองเท่านั้นมันมีปัจจัยอื่นประกอบด้วย
โลเคชั่นที่มีดีมานด์มันมีจุดของมัน ถ้ามันก่อขึ้นมาแล้วมันจะติดตลาดอยู่แค่ตรงนั้น จุดนี้ต้องคนมีประสบการณ์หรือคนที่อยู่ย่านนั้นจะรู้ดี ยกตัวอย่างเช่น ย่านทองหล่อ หลายคนนึกว่าถ้าติดรถไฟฟ้าจะมีดีมานด์คนต้องการเช่าสูง
แต่จริงๆไม่ใช่ คนเช่าย่านทองหล่อส่วนใหญ่ เค้าจะชอบเช่ากลางๆซอย แถวมาร์เก็ตเพลส หรือ เจ อเวนิว เพราะคนแถวนั้นไม่ใช้รถไฟฟ้า ถ้าญี่ปุ่นก็จะมีคนขับรถ ส่วนคนไทยก็แน่นอนคอนโดเกือบ 10 ล้าน ไม่นั่งรถฟ้าแน่นอนถ้าไม่จำเป็น
ดังนั้นเค้าจึงชอบกลางซอยที่มันมีความอุดมสมบูรณ์ของอาหารการกินและเจริญหู เจริญตากว่า ดังนั้นถ้าคุณไปซื้อติดรถไฟฟ้าตรงทองหล่อ (ฝั่งสุขุมวิท 36-38) บางทีอาจทำให้ห้องคุณว่างนาน เพราะไม่มีคนเช่าหรือขายต่อลำบาก
หรือในย่านสาธร ถ้าฟังชื่อหลายคนคงมองว่าย่านกลางเมืองแบบนี้ต้องให้เช่าและขายดีแน่ แต่ใครเคยมีคอนโดแถวนี้จะรู้ คนในวงการเรียกย่านสาธรว่าย่านปราบเซียน เพราะ สภาพคล่องค่อนข้างต่ำแม้จะดูเหมือนอยู่กลางเมือง
เหตุผลหลักก็เพราะว่า ย่านนี้ไม่มีไลฟ์สไตล์ ไม่มีห้าง มีแต่ออฟฟิศ เสาร์อาทิตย์ยังกะเมืองร้าง คนจึงไม่อยากมาอยู่กันเท่าไร ถึงตอนนั้นห้องที่โดนกูรูแนะให้ซื้อมา อาจจะต้องผ่อนเสียดอกให้ธนาคารไปเรื่อยๆเพราะห้องไม่มีคนเช่า
อ้าวไหนว่าไม่ต้องออกเงินซักบาท !!! ในแต่ละย่านมันมีดีมานด์และอัตลักษณ์ของคนในพื้นที่นั้นๆ ซึ่งต้องคนที่มีประสบการณ์จริงๆเท่านั้นถึงจะมองออกว่าจุดไหน ดังนั้น อย่าพึงเชื่ออะไร ลองค้นคว้าหาข้อมูลก่อน
โลเคชั่นที่มีดีมานด์มันมีจุดของมัน ถ้ามันก่อขึ้นมาแล้วมันจะติดตลาดอยู่แค่ตรงนั้น จุดนี้ต้องคนมีประสบการณ์หรือคนที่อยู่ย่านนั้นจะรู้ดี ยกตัวอย่างเช่น ย่านทองหล่อ หลายคนนึกว่าถ้าติดรถไฟฟ้าจะมีดีมานด์คนต้องการเช่าสูง
แต่จริงๆไม่ใช่ คนเช่าย่านทองหล่อส่วนใหญ่ เค้าจะชอบเช่ากลางๆซอย แถวมาร์เก็ตเพลส หรือ เจ อเวนิว เพราะคนแถวนั้นไม่ใช้รถไฟฟ้า ถ้าญี่ปุ่นก็จะมีคนขับรถ ส่วนคนไทยก็แน่นอนคอนโดเกือบ 10 ล้าน ไม่นั่งรถฟ้าแน่นอนถ้าไม่จำเป็น
ดังนั้นเค้าจึงชอบกลางซอยที่มันมีความอุดมสมบูรณ์ของอาหารการกินและเจริญหู เจริญตากว่า ดังนั้นถ้าคุณไปซื้อติดรถไฟฟ้าตรงทองหล่อ (ฝั่งสุขุมวิท 36-38) บางทีอาจทำให้ห้องคุณว่างนาน เพราะไม่มีคนเช่าหรือขายต่อลำบาก
หรือในย่านสาธร ถ้าฟังชื่อหลายคนคงมองว่าย่านกลางเมืองแบบนี้ต้องให้เช่าและขายดีแน่ แต่ใครเคยมีคอนโดแถวนี้จะรู้ คนในวงการเรียกย่านสาธรว่าย่านปราบเซียน เพราะ สภาพคล่องค่อนข้างต่ำแม้จะดูเหมือนอยู่กลางเมือง
เหตุผลหลักก็เพราะว่า ย่านนี้ไม่มีไลฟ์สไตล์ ไม่มีห้าง มีแต่ออฟฟิศ เสาร์อาทิตย์ยังกะเมืองร้าง คนจึงไม่อยากมาอยู่กันเท่าไร ถึงตอนนั้นห้องที่โดนกูรูแนะให้ซื้อมา อาจจะต้องผ่อนเสียดอกให้ธนาคารไปเรื่อยๆเพราะห้องไม่มีคนเช่า
อ้าวไหนว่าไม่ต้องออกเงินซักบาท !!! ในแต่ละย่านมันมีดีมานด์และอัตลักษณ์ของคนในพื้นที่นั้นๆ ซึ่งต้องคนที่มีประสบการณ์จริงๆเท่านั้นถึงจะมองออกว่าจุดไหน ดังนั้น อย่าพึงเชื่ออะไร ลองค้นคว้าหาข้อมูลก่อน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : กูรูพารวยได้จริงหรือ?
สนใจลงประกาศ หรือ หา คอนโด ย่าน อื่นๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น