วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ปลายทางที่อาจไม่เหลืออะไร



ปลายทางที่อาจไม่เหลืออะไร

บางครั้งการวิ่งแบบไม่ลืมหูลืมตาก็ทำให้เราลืมว่าไปว่าเป้าหมายในชีวิตจริงๆคืออะไร เราต้องการสิ่งนั้นจริงๆหรือเปล่า

ในโลกของการทำงานบริษัท เราอาจจะไม่ได้เห็นคนที่เอาแต่ทำงานจนไม่ได้พักบ่อยนัก แต่ในโลกของนักลงทุน ผมกลับเห็นอยู่มากมายเต็มไปหมด ทุกคนวิ่งไปข้างหน้า เหมือนวิ่ง 4X100 ตลอดเวลา ไม่หยุด ไม่เหนื่อย และไม่พัก เพื่อจะให้ถึงปลายทางที่ตัวเองหวังให้เร็วที่สุด จนหลายๆ ครั้งทำให้ลืมไปว่าเป้าหมายที่แท้จริงคืออะไร หลายๆ คนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์นี้โดยไม่รู้ตัว
นักลงทุนจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกอายุ 25-35 ที่ส่วนใหญ่กำลังเริ่มสร้างตัว หลงไหลในการลงทุน ลงทุนแล้วมีความสุข แต่ยังคงทำงานประจำอยู่เพราะเงินลงทุนอาจจะยังไม่มากพอ ทำให้ต้องทำงานไปด้วยลงทุนไปด้วย ฝันไกลไปถึงอิสระภาพทางการเงินตอนอายุ 40 มีเป้าหมาย มั่นคง ชัดเจน และมุ่งมั่น ยอมเหนื่อยวันนี้ เพื่อสบายในวันหน้า
ฟังดูแล้วก็ยอดเยี่ยมเลยใช่มั้ยครับ เป็นคนที่มีเป้าหมายปลายทางที่แน่นอน เท่าที่ผมพบมาคนกลุ่มนี้เป็นคนดีมากครับ นอกจากเค้าจะมีเป้าหมายการเป็นอิสระภาพทางการเงินเพื่อตัวเองแล้ว มักจะมีเป้าหมายในการดูแลคนที่รักและครอบครัวเป็นเป้าหมายลึกๆ ที่อาจไม่ได้บอกใครมากนัก นอกจากเพื่อนที่สนิทจริงๆ

แต่ในความเป็นจริงผมกลับพบว่า คนกลุ่มนี้กลับเป็นคนที่ไม่มีความสุขมากนัก เพราะมุ่งมั่นวิ่งๆ มองแต่ข้างหน้า มองแต่เส้นชัยปลายทาง เมื่อประสบความสำเร็จในเรื่องต่างๆ แทนที่จะใช้เวลายินดีกับความสำเร็จ กลับมองไปข้างหน้าเพื่อหาเป้าหมายต่อไปทันทีที่เป้าหมายเก่าสำเร็จไปแล้ว  พร้อมกับคิดในใจว่า " เราทำได้ เราก้าวหน้า ในอนาคตเราต้องดูแลคนที่เรารักได้ มีความสุข ยอมเหนื่อยวันนี้ เพื่อสบายในวันหน้า"

แต่ความจริงของโลกมันกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้นครับ ด้วยความที่มองไปข้างหน้าตลอดเวลาและร่างกายคนมักมีขีดจำกัด ความตรึงเครียดที่อยู่ในตัวมันซึมซาบไปโดยไม่รู้ตัว กลายเป็นคนเครียดและตึงตลอดเวลา รังสีความตึงแผ่ซ่านไปทั่ว ทุกคนรอบตัวแทนที่จะดีใจกับความสำเร็จของเขา กลับไม่มีความสุขและตึงตามกันไปหมด คู่รักจำนวนไม่น้อยประสบปัญหานี้ (แต่ไม่รู้ตัว) เขาจะได้แต่ถามตัวเองแบบไม่เข้าใจว่า "นี่ผมพยายามขนาดนี้ทำไมไม่มีใครเข้าใจ"

ใครกำลังตกอยู่ในภาวะแบบนี้ ผมอยากให้คุณพักผ่อนซักพัก ปล่อยตัว ปล่อยใจสบายๆ ซัก 4-5 วัน ใช้เวลากับตัวเอง กับคนที่คุณรัก แล้วค่อยถามตัวเองดูว่า  "นี่คือชีวิตที่เราอยากได้จริงๆ หรอ อะไรคือเป้าหมายอันดับหนึ่งของชีวิต"  จำเป็นจริงๆ หรอ ที่จะต้องสละความสุขวันนี้ เพื่อความสุขในวันหน้า เรามัวแต่โฟกัสสิ่งที่อยู่ไกลตัวจนลืมสิ่งสำคัญที่อยู่ใกล้ตัวไปรึเปล่า

ความสำเร็จสำคัญครับ เงินก็สำคัญพอๆกับความสำเร็จ แต่ของพวกนี้จะไม่มีค่าอะไรเลยในวันที่คนที่คุณรักไม่มีความสุข ในวันที่คุณไม่เหลือใครให้แชร์ความสำเร็จด้วย ในวันที่คุณไม่สบายแต่เงินที่คุณมี กลับช่วยให้คุณดีขึ้นไม่ได้

ผมอยากแนะนำทางเลือกในแบบใหม่ ประสบความสำเร็จ โดยการวิ่งไปข้างหน้า แต่คอยชมความสวยงามสองข้างทางตลอด มีความสุขกับครอบครัวและสิ่งที่อยู่รอบตัวไปพร้อมๆกับวิ่งไปข้างหน้า แชร์เรื่องดีๆที่เกิดขึ้นกับคนรักของคุณ  วิ่งมองหน้า มองข้าง มองหลัง ไปพร้อมๆกัน อาจจะถึงช้ากว่าการมองไปข้างหน้าอย่างเดียวหน่อย แต่ความเร็วมันไม่ได้สำคัญที่สุดในสมการนี้ สิ่งสำคัญคือการได้มีความสุขกับคนที่รักหรือครอบครัวของเราต่างหาก


สนใจลงประกาศ หรือ หา คอนโด ย่าน อื่นๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น